ที่ผ่านมารองเท้าผ้าใบสำหรับผู้หญิงมักเป็นเพียงรุ่นที่เล็กลงมาจากของผู้ชายเท่านั้นแต่ความจริงคือ ร่างกายผู้หญิงไม่ได้เป็นเพียงผู้ชายตัวเล็กร่างกายและ ลักษณะการเคลื่อนไหวของผู้หญิงแตกต่างออกไปอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องของ "Q-Angle" ที่หลายคนมองข้ามไป
Q-Angle คืออะไร และสำคัญอย่างไร?
Q-Angle (Quadriceps Angle) คือมุมที่เกิดจากจุดตัดระหว่างเส้นจากสะโพกถึงลูกสะบ้า (หัวเข่า) และจากลูกสะบ้าถึงกระดูกหน้าแข้ง โดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงจะมีสะโพกที่กว้างกว่าผู้ชาย ทำให้มีค่า Q-Angle ที่กว้างกว่าด้วย โดยเฉลี่ย ผู้หญิงมี Q-Angle ประมาณ 15-20 องศา ขณะที่ผู้ชายอยู่ที่ประมาณ 10-15 องศา
Q-Angle ที่มากกว่านี้ ส่งผลต่อแรงกดที่บริเวณหัวเข่าและข้อเท้าโดยตรงโดยเฉพาะขณะเดิน วิ่ง หรือออกกำลังกาย รวมถึงมีผลต่อท่าทางการเดินและการรับแรงกระแทกของเท้าและขา
Q-Angle กับความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บในผู้หญิง
Q-Angle ที่กว้างกว่า ส่งผลต่อความเสี่ยงบาดเจ็บหลายอย่าง เช่น.
- อาการปวดเข่าด้านหน้า (Runner's Knee)
- บาดเจ็บที่เอ็นไขว้หน้า (ACL injuries)
- รองช้ำ (Plantar Fasciitis)
- ปวดหน้าแข้ง (Shin splints)
- ปวดเข่าด้านนอก (IT band syndrome)
มันเป็นผลจากชีวกลศาสตร์ ไม่เกี่ยวกับความโชคร้ายในการได้รับอาการบาดเจ็บ
หากรองเท้าผ้าใบไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับ Q-Angle ของผู้หญิงโดยเฉพาะจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการบาดเจ็บในระยะยาว
รองเท้าผู้หญิงไม่ใช่เพียง “ลดขนาดจากดีไซน์ปกติ”
ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมรองเท้ามักเน้นข้อมูลจากผู้ชายเป็นหลัก รองเท้าผู้หญิงจึงถูกออกแบบด้วยขนาดที่เล็กลงสีสันที่ต่างออกไปเท่านั้น แนวคิดนี้ล้าสมัยและไม่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของผู้หญิง
ผู้หญิงต้องการรองเท้าที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น ประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุด และลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บโดยตรง
รองเท้าผู้หญิงควรได้รับการออกแบบที่แตกต่างอย่างไร?
รองเท้าผู้หญิงควรมีองค์ประกอบสำคัญดังนี้:
- พื้นรองเท้าส่วนหน้า (Forefoot) กว้างขึ้น ช่วยให้การลงน้ำหนักมั่นคงขึ้นลดแรงหมุนของเข่า
- การรองรับส่วนอุ้งเท้า (Medial Support) ป้องกันอาการเท้าบิดเข้าด้านใน (Overpronation) ช่วยลดแรงกดบนเข่า
- ปรับ Heel-to-Toe Drop (ความสูงของส้นถึงปลายเท้า) ช่วยกระจายน้ำหนักเท้าให้เหมาะสม ลดแรงกดที่เข่าและเอ็นร้อยหวาย
- การรองรับแรงกระแทกเฉพาะจุด (Targeted Cushioning) ควรเสริมการดูดซับแรงกระแทกในจุดสำคัญ เช่น ฝ่าเท้าส่วนหน้า และส้นเท้าด้านข้าง
- การออกแบบ Lasts (แม่พิมพ์รองเท้า) สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ เพื่อให้เหมาะสมกับรูปเท้า ความโค้งของอุ้งเท้า และส้นเท้าที่แคบกว่า
รองเท้าผู้หญิงยุคใหม่ต้องออกแบบเพื่อผู้หญิงจริงๆ
ผู้หญิงในปัจจุบันต้องการรองเท้าที่ตอบโจทย์ทั้ สไตล์และสรีระไม่ใช่เพียงแค่เรื่องความสวยงาม แต่ต้องรองรับการเคลื่อนไหวจริง และนี่คือเหตุผลที่ ดร.คิม ลิลลีย์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ FitFlop ได้พัฒนา FFRUNNER. รองเท้าที่คำนึงถึง Q-Angle อย่างจริงจัง
ครั้งต่อไปที่คุณเลือกซื้อรองเท้าผ้าใบ ถามตัวเองว่า รองเท้าคู่นี้ออกแบบมาสำหรับผู้หญิงจริง หรือแค่ดีไซน์มาเพื่อขายผู้หญิงเท่านั้น?
เกี่ยวกับ FitFlop
เราเกิดมาแตกต่าง ไม่เหมือนแบรนด์อื่นในหมวดเดียวกัน เราคือบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมอัจฉริยะที่บังเอิญทำรองเท้า ผ่านกระบวนการออกแบบตามหลักชีวกลศาสตร์และยศาสตร์ เราช่วยให้ผู้คนทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้นและรู้สึกดีขึ้น ด้วยรองเท้าที่ทันสมัยเหมาะสำหรับทุกวัน ช่วยเพิ่มพลังงานในทุกจังหวะการเคลื่อนไหว
FitFlop ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 โดยนักธุรกิจหญิง Marcia Kilgore ตั้งแต่เริ่มต้นก็โดดเด่นเหนือใคร ด้วยการผสานวิทยาศาสตร์ระดับโลกเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัยและงานดีไซน์ที่กล้าฉีกกฎ จึงทำให้ผลิตภัณฑ์รุ่นแรกอย่างรองเท้าแตะ WalkStar 1 กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกอย่างรวดเร็ว
และด้วยแนวคิดเฉพาะตัว – ผสานศาสตร์และศิลป์ในการทำรองเท้า – ทำให้แบรนด์เติบโตอย่างรวดเร็วและมีชื่อเสียงจนถึงทุกวันนี้ ด้วยยอดขายกว่า 65 ล้านคู่ทั่วโลก
คุณสามารถพบ FitFlop ได้ใน 73 ประเทศ ผ่านหน้าร้านกว่า 5,000 แห่ง และร้านค้าปลีกกว่า 2,000 แห่ง พร้อมตัวแทนจำหน่ายอีก 31 ราย นอกจากนี้ เรายังมีร้าน FitFlop คอนเซ็ปต์สโตร์รวม 145 แห่งในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง อินเดีย และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงสำนักงานใหญ่ในสหราชอาณาจักรที่กำลังขยายตัว และโชว์รูมใหม่ในลอนดอนและนิวยอร์ก
ชุมชนผู้สวมใส่ FitFlop มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายในทุกช่วงวัย ที่ต่างมุ่งมั่นในการใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมมองหาวิธีเพิ่มพลังในทุก ๆ วันเสมอ